สาส์นฮัจญ์ ฮ.ศ. 1433 โดย ซัยยิดอะลี คอเมเนอี ยังบรรดาผู้แสวงบุญ ณ นครมักกะฮ์

ท่านผู้นำสูงสุดสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ได้ส่งสาส์นฮัจญ์ปีฮิจเราะฮ์ศักราช 1433 ยังบรรดาผู้แสวงบุญ ณ นครมักกะฮ์ ซึ่งถือการประกอบพิธีฮัจญ์ของประชาชาติอิสลามเป็นพิธีกรรมที่เต็มไปด้วยรหัสยะและความล้ำลึกอย่างมากมาย อีกทั้งยังเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ในการเปลี่ยนแปลงประชาชาติอิสลาม ด้วยการวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกอิสลามอีกด้วย
ซึ่งสาสน์ดังกล่าวมีใจความดังนี้
بسماللّهالرّحمنالرّحيم
الحمد للّه ربّ العالمين و صلوات اللّه و سلامه على الرّسول الأعظم الأمين و على ءاله المطهّرين المنتجبين و صحبه الميامين
อัสลามุอาลัยกุม วาเราะฮ์มาตุลลอฮ์ วะบารอกาตุฮ์
ช่วงเวลาแห่งการประกอบพิธีฮัจญ์ เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความเมตตา และความจำเริญได้มาเยือนอีกครั้งหนึ่งในปีนี้ และเป็นความโชคดีอย่างยิ่งของผู้ที่ประสบความสำเร็จในการเข้าร่วมพิธีฮัจญ์อันเต็มเปี่ยมไปด้วยรัศมีที่บังเกิดขึ้นในเบื้องพระพักตร์ของพระองค์
ณ ที่นี้ เป็นสถานที่ และช่วงเวลาที่จะเชิญชวนเรียกร้องผู้ประกอบพิธีฮัจญ์ทุกคนให้มีการพัฒนา และยกระดับคุณภาพทางจิตวิญญาณ และโลกวัตถุ ณ สถานที่แห่งนี้ทั้งสุภาพบรุษ และสุภาพสตรีที่เดินทางมาด้วยหัวใจ มาตอบรับและตอบสนองคำเชิญชวนของพระองค์ในการเป็นผู้ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ณ สถานที่แห่งนี้ทุกท่านมีโอกาสที่จะทำการฝึกฝนการสร้างความเป็นเอกภาพ ความเป็นภราดรภาพ และความยำเกรง สถานที่แห่งนี้เป็นค่ายอบรมแห่งการฝึกฝน การอบรม เป็นนิทรรศการจำลองภาพแห่งความเอกภาพ ความยิ่งใหญ่ ท่ามกลางความหลากหลายของประชาชาติอิสลาม และเป็นค่ายแห่งการต่อสู้กับมารร้าย และบรรดาผู้ปกครองที่เผด็จการทั้งหลาย
ณ สถานที่แห่งนี้ที่พระองค์ผู้ทรงยิ่งใหญ่ ทรงกำหนดให้มวลผู้ศรัทธาได้มองเห็นนานาประโยชน์ของตนเองอย่างชัดจนที่สุด จากนั้นเราต้องเปิดโลกทัศน์ ให้พันธะสัญญาแห่งฟากฟ้านี้สามารถแผ่ปกคลุมวิถีชีวิตของปัจเจกบุคคลและวิถีชีวิตทางสังคม ทำให้คุณลักษณะที่เฉพาะของพิธีกรรมฮัจญ์หล่อหลอมโลกนี้และโลกหน้าเข้าด้วยกัน และรวมถึงการหล่อหลอมระหว่างวิถีชีวิตแห่งปัจเจกบุคคลและวิถีชีวิตทางสังคม
วิหารอัลกะอ์บะฮ์ที่มีความยิ่งใหญ่ การฏอวาฟของเรือนร่าง ด้วยจิตวิญญาณนับล้าน ที่วางอยู่บนพื้นฐานอันมั่นคงนิรันดร ด้วยความพยายามอุตสาหะที่ไม่หยุดหย่อนและมีอย่างต่อเนื่อง และมีระบบระเบียบระหว่างจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด การรวมตัวกันของดวงใจนับล้าน ณ ทุ่งมินา มัชอัร เสมือนภาพจำลองต่างๆ ของวันแห่งการตัดสิน การมุ่งหน้าสู่สถานที่ขว้างเสาอันเป็นสัญลักษณ์แห่งซาตานอย่างพร้อมเพียงกัน จากทั่วทุกสารทิศ ทุกสีผิว ทุกชนชั้นที่เข้าร่วมพิธีกรรมอันเต็มเปี่ยมไปด้วยรหัสยะและเต็มไปด้วยความหมายและสัญลักษณ์แห่งทางนำ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วเป็นเอกลักษณ์เฉพาะและพิเศษของพิธีกรรมอันเป็นสิ่งจำเป็นเต็มไปด้วยความหมายทั้งสิ้น
การประกอบพิธีฮัจญ์ของมวลมุสลิม เป็นการสานสัมพันธ์และผูกสัมพันธ์ของหัวใจทั้งหลายกับพระองค์ และช่วงเวลาแห่งความสงบทางจิตใจที่สามารถเติมเต็มและสร้างรัศมีแห่งความยำเกรงและความศรัทธาได้อย่างดียิ่ง โดยที่ทุกคนสามารถปลดเปลื้องความเป็นอัตตาของตน นำไปสู่การแก้ไขปัญหาอันหลากหลายของประชาชาติอิสลามทั้งมวล อีกทั้งยังเป็นอาภรณ์แห่งความยำเกรงในการปกป้องตนเองจาการคุกคามของความโสมมต่างๆ แห่งความบาป และสามารถปลุกจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้กับเหล่าผู้ปกครองที่ชั่วร้าย
ณ สถานที่แห่งนี้ ผู้แสวงประกอบพิธีฮัจญ์ จะสามารถประจักษ์เห็นด้วยสายตาของตนเองต่อความยิ่งใหญ่ของประชาชาติอิสลามท่ามกลางความหลากหลาย ที่จะนำไปสู่การหยั่งรู้ถึงสามารถ และศักยภาพที่มวลประชาชาติอิสลามมี ทำให้มวลประชาชาติมีความหวังในอนาคต มีความรู้สึกตื่นตัวต่อภารกิจและบทบาทของตนเอง และมากไปกว่านั้นหากได้รับการชี้นำ และความช่วยเหลือจากพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ) มวลมุสลิมก็สามารถที่จะให้คำสัตยาบันที่มั่นคงกับท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) และอิสลามอีกครั้งหนึ่ง และจะนำไปสู่การฟื้นฟูเปลี่ยนแปลงตนเอง และมวลประชาชาติ จะเป็นการประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ของอิสลามอย่างแน่วแน่และมีเกียรติ
ทั้งสองประการข้างต้น คือ การฟื้นฟูเปลี่ยนแปลงตนเอง และการฟื้นฟูเปลี่ยนแปลงประชาชาติ เป็นภาระกิจและกฎข้อบังคับที่ไม่มีการเว้นวรรคไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม โดยเฉพาะสำหรับบุคคลที่มีวิสัยทัศน์ และผู้มีวิจารณญาณ ที่มีความตระหนักในภาระหน้าที่ทางศาสนาอย่างรู้จริงเห็นแจ้ง ถือว่ามันไม่เป็นสิ่งที่ยากลำบากแต่อย่างใด
การฟื้นฟูเปลี่ยนแปลงตนเองนั้นเริ่มต้นด้วยการต่อสู้กับอารมณ์ฝ่ายต่ำของตนเอง การออกห่างจากการกระทำความผิดบาป และการฟื้นฟูเปลี่ยนแปลงประชาชาติ คือการทำความรู้จักต่อบรรดาศัตรูของอิสลาม ทำความเข้าใจล่วงรู้แผนการร้ายของบรรดาศัตรู การต่อสู้เพื่อทำลายแผนการร้ายของบรรดาศัตรู รวมถึงการตอบโต้แผนการร้ายของบรรดาศัตรู ในขณะเดียวกันก็มีการสานความสัมพันธ์ทั้งวาจาระหว่างพี่น้องมุสลิมและประชาชาติอิสลาม
ณ เวลานี้ หนึ่งในเรื่องราวที่สำคัญที่สุดของโลกอิสลามที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องชี้ชะตากรรมของประชาชาติอิสลามในอนาคต คือปรากฏการณ์การปฏิวัติของประชาชนในแอฟริกาเหนือ และในเขตภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งการปฏิวัติเหล่านี้ ทำให้รัฐบาลที่ชั่วร้ายลูกสมุนสหรัฐอเมริกา และพันธมิตรของยิวไซออนิสต์ บางประเทศต้องล้มสลายลง และส่งสัญญาณไปตามประเทศต่างๆ อีกหลายประเทศ
มวลประชาชาติอิสลามจะต้องไม่ปล่อยให้โอกาสที่ดีเช่นนี้หลุดมือไป และถ้าหากประชาชาติอิสลามไม่ได้ทำการฟื้นฟูเปลี่ยนแปลงประชาชาติในโอกาสนี้ได้ ถือว่าประชาชาติอิสลามขาดทุนครั้งยิ่งใหญ่ทีเดียว ในปัจจุบันนี้เหล่ามหาอำนาจผู้อหังการ ได้ผนึกกำลัง และทำทุกวิธีทางเพื่อบิดเบือนและทำลายขบวนการการเคลื่อนไหวอันยิ่งใหญ่ของนี้ของอิสลามอย่างยิ่งยวด
การลุกขึ้นปฏิวัติครั้งยิ่งใหญ่นี้ทั้งบุรุษและสตรี ต่างมีส่วนร่วมในการยืนหยัดต่อสู้กับนักปกครองและลูกสมุนของสหรัฐอเมริกาทุกคน พวกเขาได้สร้างความอ่อนแอ ความอับอายแก่รัฐบาลต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์กับยิวไซออนิสต์ และสิ่งนี้ก็ถือเป็นเงื่อนไขและปัจจัยที่สำคัญในการต่อสู้เพื่อให้อิสลาม และหลักคำสอนอิสลามได้ยืนหยัดอยู่อย่างมั่นคง พวกเขาได้ประกาศปกป้องพี่น้องมุสลิมปาเลสไตน์ผู้ถูกกดขี่ การประกาศที่จะต่อสู้กับผู้ปกครองที่เผด็จการ พวกเขาได้ยื่นมือแห่งความรักไปยังมวลประชาชาติอิสลาม เพื่อเรียกร้องความเป็นเอกภาพ มิตรภาพและความเป็นหนึ่งเดียวกันของอิสลาม
เหล่านั้นคือรากฐานที่สำคัญของการลุกขึ้นต่อสู้ของประชาชนในบางประเทศช่วงสองปีที่ผ่านมา พวกเขาได้ชูธงแห่งเสรีภาพและการเปลี่ยนแปลง มุ่งหน้าเข้าสู่สมรภูมิการปฏิวัติด้วยร่างกายและจิตวิญญาณของพวกเขา และพวกเขานี้แหละที่สามารถจะรักษาไว้ซึ่งรากฐานหลักต่อการเปลี่ยนแปลงประชาชาติอิสลาม และการยืนหยัดบนรากฐานหลักนี้ ถือเป็นปัจจัยและเงื่อนไขสำคัญในการบรรลุซึ่งชัยชนะสุดท้ายของประชาชนในประเทศต่างๆ
ในขณะเดียวกันบรรดาศัตรูก็มีความพยายามในการสร้างความสั่นคลอนต่อรากฐานหลักนี้อยู่ตลอดเวลา ลูกสมุนของสหรัฐอเมริกา นาโต้ และยิวไซออนิสต์ ได้ฉวยโอกาสบางเวลาที่มวลประชาชาติอิสลามละเลย โดยมีการบิดเบือนเยาวชนมุสลิม ด้วยการใช้เยาวชนเหล่านี้เป็นเครื่องมือในการโจมตีอิสลามและพี่น้องมุสลิม มีการสร้างและสร้างกระแส ว่าการต่อสู้กับอิสราเอลไซออนิสต์ และอเมริกานั้นถือว่าเป็นการก่อการร้าย บรรดาศัตรูต้องการที่จะหลั่งเลือดของมวลมุสลิมด้วยน้ำมือของพี่น้องมุสลิมด้วยกัน เพื่อที่บรรดาศัตรูอิสลามสามารถที่เอาตัวรอดได้ในช่วงเวลานี้ ทว่าอิสลามและนักต่อสู้มุสลิม ก็จะกลายเป็นผู้มีภาพลักษณ์ที่น่าเกลียดในสายตาของประชาคมโลก
หลังจากที่พวกเขาสิ้นหวังในการทำลายล้างอิสลามและสโลแกนต่างๆ ของอิสลามแล้ว พวกเขาก็ได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการใหม่ขึ้นมา และหันมาใช้แผนการสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชาติมุสลิม โดยใช้ข้ออ้างเรื่องนิกายในอิสลาม ด้วยการสร้างกระแสความหวาดผวาชีอะฮ์ และกระแสความหวาดผวาสุนนี่ขึ้นในหมู่ประชาชาติอิสลาม เพื่อทำลายความเป็นเอกภาพของมวลประชาชาติมุสลิม
พวกเขาใช้เจ้าหน้าที่ของตนในคาบสมุทรอาหรับเป็นเครื่องมือในแผนการนั้นของพวกเขา โดยการสร้างวิกฤติให้เกิดขึ้นในประเทศซีเรีย เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจภารกิจสำคัญของตนที่มีต่อประเทศชาติ หลงลืมภัยอันตรายที่ใกล้ตัว และหันมาสนใจให้ความสำคัญต่อเหตุการณ์นองเลือดที่พวกเขาเจตนาจงใจสร้างขึ้นมาเสีย
สงครามภายในที่เกิดขึ้นในซีเรียและการเข่นฆ่าของเยาวชนมุสลิมซึ่งกันและกัน ถือเป็นการก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรงที่เริ่มต้นสร้างโดยสหรัฐอเมริกา ยิวไซออนิสต์ และรัฐบาลที่เป็นลูกสมุนรับใช้มหาอำนาจ ใครบ้างจะมีความเชื่อว่า รัฐบาลที่เคยปกป้อง และให้การสนับสนุนจอมเผด็จการอันป่าเถื่อน แห่งอียิปต์ ตูนิเซีย และลิเบีย ในวันนี้พวกเขาหันมาเรียกร้องประชาธิปไตยจากรัฐบาลซีเรีย? เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศซีเรีย เป็นเหตุการณ์แห่งการล้างแค้นต่อรัฐบาลหนึ่งเดียวที่ มีการยืนหยัดต่อสู้กับอิสราเอลไซออนิสต์มาตลอดสามศตวรรษ และเป็นรัฐบาลเดียวที่ให้การสนับสนุนกลุ่มและขบวนการต่อสู้ภาคประชาชนในปาเลสไตน์และเลบานอนตลอดมา
เราขอประกาศสนับสนุนรัฐบาลซีเรีย และคัดค้านการแทรกแซงกิจการภายในซีเรียทุกรูปแบบ การเปลี่ยนแปลงในประเทศซีเรียจะต้องเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของประชาชาติซีเรีย และด้วยวิธีการของประชาชาติซีเรียเท่านั้น แต่ทว่าในวันนี้บรรดามหาอำนาจและข้าสมุนรับใช้ของพวกเขา ได้สร้างภาระตึงเครียด และวิกฤติให้เกิดขึ้นในซีเรีย และได้ฉวยโอกาสช่วงวิกฤติเช่นนี้โจมตีและก่อเหตุความรุนแรงในประเทศซีเรียทุกรูปแบบ ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าเป็นภัยอันตรายที่ร้ายแรง หากประเทศในภูมิภาคไม่ได้ตระหนักและล่วงรู้แผนการร้ายนี้ ก็จงระวังให้ดีว่าความหายนะโดยมหาอำนาจ จะคืนกลับสู่ประเทศของตนเองอย่างแน่นอน
ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลาย การประกอบพิธีฮัจญ์เป็นโอกาสทองแห่งการครุ่นคิด พินิจพิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ สำคัญของโลกอิสลาม ชะตากรรมการปฏิวัติที่เกิดขึ้นในเขตภูมิภาค และความพยายามต่างๆ ของศัตรูอิสลามที่จะบิดเบือนทำลายการปฏิวัติต่างๆ เหล่านั้นถูกนำมาใช้ในทุกรูปแบบ ถูกรวมไว้ในเรื่องเดียวกันทั้งสิ้น
แผนการต่างๆ ที่ถูกจุดกระแสขึ้นเพื่อสร้างความแตกแยกในมวลประชาชาติอิสลาม โดยข้ออ้างต่างๆ อาทิเช่นเรื่องนิกายในอิสลาม โดยการสร้างความหวาดผวาชีอะฮ์ให้กับพี่น้องสุนนี่ หรือสร้างความหวาดผวาสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านให้นานาประเทศอิสลาม สร้างเรื่องต่างๆ ขึ้นมามากมายให้มวลประชาชาติหลงลืมเหตุการณ์ต่างๆ ในปาเลสไตน์ สร้างความมัวหมองให้กับศาสนาอิสลามในหมู่ประชาคมโลก โดยการสร้างภาพยนตร์ดูหมิ่นศาดามุฮัมมัด (ศ) ศาสดาองค์สุดท้ายของพระผู้เป็นเจ้าของมวลมนุษยชาติ จุดไฟสงครามกลางเมืองในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศที่มีมุสลิมอาศัยอยู่ แบ่งซอยประเทศต่างๆ เพื่อง่ายต่อการครอบงำ สร้างความหวาดผวาอิสลามให้กับประชาคมโลก และรัฐบาลต่างๆ ทั่วโลก และอีกหลายๆ เรื่องในทำนองเดียวกันที่กล่าวมาข้างต้น มวลประชาชาติมุสลิมต้องตามทันเกมร้ายเหล่านั้นของศัตรู
ซึ่งในวันนี้จำต้องมีการพิจารณาไตร่ตรองกันอย่างรอบคอบในการสร้างบรรยากาศ ให้กับผู้แสวงบุญในการสร้างความเป็นพี่น้องกันและมิตรภาพที่ดีระหว่าง.หวังว่าคำแนะนำและการชี้แนะของข้าพเจ้า จะเป็นแนวทางแห่งความสำเร็จและความรอดพ้นสำหรับพี่น้องผู้ศรัทธาทุกท่านที่ มีความเพียรพยายามและมุมานะ
พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ) ทรงมีพระดำรัสว่า "และบรรดาผู้ต่อสู้ดิ้นรนในทางของเราแน่นอนเราจะชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องแก่พวกเขาสู่ทางของเรา และแท้จริงอัลลอฮ์ทรงอยู่ร่วมกับผู้กระทำความดีทั้งหลาย" (ซูเราะฮ์ อัลอังกะบูต โองการที่ 69)
วัสลามุอาลัยกุม วาเราะฮ์มาตุลลอฮ์ วะบารอกาตุฮ์
ซัยยิดอะลี คอเมเนอี
5 ซุลฮิจญะฮ์ ฮ.ศ. 1433 / 22 ตุลาคม 2555