
3 วิธียุติการนินทา
การนินทาเป็นความบาปชนิดหนึ่งที่ต้องได้รับผล ในทุกๆศาสนาเชื่อว่าการนินทาคือความบาป แต่หลายคนกลับมองว่ามันเป็นบาปที่ไม่หนักหนาสาหัสมาก รู้สึกเฉยๆและถือว่าเป็นการพูดคุยปรึกษาหารือธรรมดา คนส่วนมากเมื่อมารวมตัวกัน บ่อยครั้งการนินทาก็จะเริ่มขึ้นทันที หลายคนอาจจะคิดว่า การนินทาเป็นความบาปเฉพาะผู้ที่พูดไม่ดีเกียวกับคนอื่นเท่านั้น แต่ลืมคิดไปว่าการนินทาคือการสื่อสารและรับรู้กันทั้งสองฝ่าย
ฉะนั้นความบาปในการนินทาก็มีทั้งผู้ที่พูดและผู้ที่ฟัง การนินทาเมื่อมานั่งคำนวณเล่นๆจากการสังเกตคนรอบข้างเฉลี่ยแล้วว่า อย่างน้อย ใน 1 ปีคนเรามีการนินทาวิพากวิจารณ์ ถึง 15 วัน คนนินทามักเหมือนไม้ขีดไฟ เมื่อเขาเข้าไปพูดคุยกับคนที่มีเชื้อเช่นกันย่อมลุกติดไฟจนยากที่จะระงับเพลิง การไม่เล่าเรื่องทั้งหมด พูดความจริงครึ่งเดียว และบิดเบือนความจริง หรือแต่งเรื่องขึ้นเอง การให้การเท็จใส่ร้ายเพื่อนบ้าน เพราะการนินทาก็เปรียบกับการละเมิดบัญญัติของอิสลามที่ได้กล่าวว่าจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง
การนินทามักเป็นความรู้สึกที่ไม่ถ่อม หรือเป็นความถ่อมเทียมเท็จที่อยากให้คนรอบข้างเป็นดั่งใจตัวเองต้องการ หรือเป็นอย่างที่ตัวเองต้องการให้เป็น การนินทาเป็นความปรารถนาโดยธรรมชาติที่อยากรู้สึกดีกว่าคนอื่นต้องการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มหรือได้รับการยอมรับ จึงเป็นเรื่องยากที่จะต่อสู้กับการนินทา แต่ถ้าเราเลือกที่จะไม่กระทำเช่นนั้น ชีวิตของเราเองก็จะมีแต่ความรักสันติสุข เพราะการนินทาไม่ได้นำผลดีมาสู่เราเลย ทำให้เกิดความบาดหมาง ผิดใจกัน
บางคนอาจจะไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังนินทา ฉะนั้นก่อนที่เราจะพูดอะไรกับใครให้เราไตร่ตรองท่าทีและสิ่งที่เรากำลังจะพูดจะฟังเสียก่อน เพื่อเราจะไม่เป็นคนชอบนินทาโดยไม่รู้ตัว
3 มาตราการที่ต้องไตร่ตรอง ก่อนพูดเพื่อหลีกเลี่ยงจากการนินทา
1. เรื่องที่คุณกำลังจะพูดเป็นเรื่องของคุณหรือเรื่องของคนอื่น ถ้าเป็นเรื่องของคนอื่น นั่นเรียกว่า การนินทา
2. เรื่องที่คุณกำลังจะพูดเป็นเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดี ถ้าเป็นเรื่องไม่ดี นั่นเรียกว่า การนินทา
3. เรื่องที่คุณกำลังจะพูดมีผลดี ผลเสียหรือ มีประโยชน์ต่อทั้งผู้ฟังและก็ตัวคุณเองไหม ถ้าไม่เป็นผลดีแก่ใครเลย นั่นก็เรียกว่า การนินทา
ท่านอิมามอาลี(อ) กล่าวว่า การนินทานั้นเป็นการกระทำของคนชั่ว