|
||
คุณค่าด้านศีลธรรม : ให้อภัยแล้วจริงหรือ? | ||
ให้อภัยแล้วจริงหรือ?
สามีภรรยาทะเลาะกัน หลังจากนั้นต่างคนต่างแยกไปพักหนึ่ง แล้วกลับมาเจอกันอีก สามี : ผมขอโทษนะ ภรรยา : คะ ฉันให้อภัยคุณคะ ฉันก็ขอโทษด้วยนะที่พูดไม่ดีกับคุณ ทั้งสองคนก็ดีกัน และหลังจากนั้นประมาณสองสัปดาห์ ทั้งสองทะเลาะกันอีก สามี : จำไม่ได้หรอ วันนั้นคุณว่าอะไรผมไปบ้าง คุณโทษผมทั้งนั้น ในทุกๆเรื่อง คุณว่าผมผิด สามีพยายามขุดคุ้ยเรื่องเก่าออกมาทะเลาะอีก ภรรยา : ฉันขอโทษแล้ว พร้อมกับเดินจากไปด้วยคำถามที่ว่า “เขาให้อภัยแล้วจริงหรือ?” บ่อยครั้งคนเราหลังจากการทะเลาะหรือผิดใจกัน มักจะจดจำความผิดของคนอื่นไว้เสมอ แม้ว่าปากจะบอกว่า ให้อภัยแล้ว แต่ก็ไม่เคยลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งก่อนๆ เวลาทะเลาะกันก็คุ้ยขึ้นมาอีก ซึ่งทำให้สะสมไปเรื่อยจนสุดท้ายสิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นสาเหตุให้เกิดความขัดแย้งภายในครอบครัวเสมอมา จนทำให้ครอบครัวต้องแตกแยกไปในที่สุด มีคำกล่าวว่า การจำคุกต้องมีทั้งสองฝ่ายเสมอ คือนักโทษและผู้คุม ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างก็อยู่ในเรือนจำเช่นกัน ถ้าคุณปล่อยให้อีกฝ่ายหนึ่งเป็นอิสระ คุณเองก็จะเป็นอิสระด้วย คุณไม่จำเป็นต้องยอมรับพฤติกรรมหรือต้องชอบคนที่ทำให้คุณเจ็บ เพียงแต่คุณให้อภัยเขาเพื่อที่คุณจะได้ดำเนินชีวิตต่อไป การให้อภัยจึงเป็นการกระทำเพื่อตนเองอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพื่อคนอื่นเลย และมันเป็นการกระทำด้วยจิตใจที่สงบสุขและมั่นคง จงให้อภัย...และลืม ไม่ใช่ให้อภัย....และจดจำ เพราะเมื่อคุณให้อภัยก็หมายความว่าสิ่งนั้นถูกลบออกไปแล้ว ไม่นำกลับมาอีก
โดย มัรยัมกุบรอ |
||
พิมพ์จาก : http://www.ahlulbait.org/main/content.php?category=8&id=1653 วันที่ : 25 มกราคม 2564 http://www.ahlulbait.org |